วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ธรรมสัญจรย้อนรอยอารยธรรมนำส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมเกล้าฯถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ปราสาทปรางค์กู่

            บรรดาศาสนาสำคัญที่มีผู้นับถือเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน พระพุทธศาสนานับว่าเป็นศาสนาที่มีอายุเก่าแก่เป็นอันดับสอง รองจากศาสนาพราหมณ์ที่ดำรงอยู่ในรูปของศาสนาฮินดู 


พระพุทธศาสนาอุบัติขึ้นในโลกเมื่อ ๔๕ ปีก่อนพุทธศักราช (พุทธศักราชเริ่มนับ ๑ ถัดจากปีที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน) ในดินแดนชมพูทวีปซึ่งในปัจจุบันได้แก่ ประเทศอินเดีย และเนปาล โดยเริ่มขึ้นในวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่พวกปัญจวัคคีย์ ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เดือนอาสาฬะ (ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘) 



จากวันนั้นเป็นต้นมา พระพุทธเจ้าได้เสด็จจาริกออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วชมพูทวีป โดยในระยะแรกพระองค์เสด็จออกเผยแผพระองค์เดียว เมื่อมีสาวกมากขึ้น ก็ให้พุทธสาวกออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วย ทำให้พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองและแผ่ขยายไปในชมพูทวีปอย่างรวดเร็ว 




ชาวชมพูทวีปพากันละทิ้งลัทธิเดิมแล้วหันมานับถือเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น เป็นลำดับ


โครงการธรรมสัญจรย้อนรอยอารยธรรมนำส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมเกล้าฯถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ณ ปราสาทปรางค์กู่



เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙

พระบรมราโชวาท….ความสุขนี้โดยมากก็นึกถึงความสุขในทางวัตถุ  คือมีเงินทองมากที่จะไปใช้แสวงหาสิ่งที่ต้องการ    สำหรับหนุ่มๆ สาว ๆ ก็สำหรับไปเที่ยวไนท์คลับหรืออะไรทำนองนั้น    ซึ่งบางทีก็เรียกว่าความสุข  ก็ต้องมีเงินก่อน  เมื่อต้องมีเงินแล้วก็ต้องหาเงิน  การทำอาชีพเดี๋ยวนี้ยาก ก็ปล้นเขาง่ายกว่านี่เป็นกลไกของเรื่องที่ว่าทำไมเดี๋ยวนี้มีอาชญากรและอาชญากรรมมาก  คือเพราะต่างคนต่างแสวงหาความสุข  ถ้ามานึกดูดี ๆ  ตอนนี้เป็นหน้าที่ขององค์การสถาบันศาสนาทุกศาสนาที่จะแสดงให้เห็นว่าความสุขนี้นะคืออะไร   อย่าไปพูดบอกว่าความสุขคือไปเข้าสวดมนต์ภาวนาแล้วเห็นอะไร ๆ ต่าง ๆ  นั่นไม่ใช่ความสุข    ความสุขคือหาความสงบในจิตใจแท้ ๆ ของแต่ละคน   ข้อนี้เป็นจุดมุ่งหมายของทุกศาสนา การสั่งสอนของศาสนาที่แท้จริงก็คือสอนให้คนได้มีความสุขซึ่งมาจากความนิ่งในใจและความดี  ไม่เบียดเบียนผู้อื่น  ถ้าแต่ละคนสามารถที่จะทำเช่นนี้แล้ว  แล้วก็เผื่อแผ่คนอื่นบ้าง  คนอื่นก็จะมีความสุขเหมือนกัน  ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันทั้งในทางวัตถุทั้งในทางจิตใจ…

พระราชทานแก่คณะผู้แทนองค์การศาสนา คณะครูและนักเรียน  วันที่ ๔ธันวาคม ๒๕๑๓


ข้อมูลจาก บทความพิเศษประกอบรายการของสถานีวิทยุ อสมท เรื่อง  “ในหลวงของเรา” ผลิตโดย งานบริการการผลิต  ส่วนสนับสนุนการผลิตวิทยุ  ฝ่ายออกอากาศวิทยุกรุงเทพ

โครงการธรรมสัญจรย้อนรอยอารยธรรมนำส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมเกล้าฯถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ซึ่งชมรมชาวพุทธสีขาวจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับคณะสงฆ์ ได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ รับฟังพระธรรมเทศนาปฏิบัติธรรมและฟังธรรมิกถาจากครูบาอาจารย์ทั่วสารทิศและเจริญจิตภาวนาตลอดทั้งคืน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พสกนิกรชาวกูยศรีสะเกษและวิทยาลัยอาชีวศึกษาจุลมณีอุทุมพรพิสัย หลอมดวงใจเป็นหนึ่ง จุดเทียนแสดงความอาลัยถวายแด่ “รัชกาลที่ ๙”

พสกนิกรชาวกูยศรีสะเกษและวิทยาลัยอาชีวศึกษาจุลมณีอุทุมพรพิสัย หลอมดวงใจเป็นหนึ่ง จุดเทียนแสดงความอาลัยถวายแด่ “รัชกาลที่ ๙” 



ช่วงเย็นวันนี้ (11 พ.ย. 59) ที่ลานวัฒนธรรมดุงกูย บ้านกู่ ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ นายชาตรี แสนทวีสุข ปลัดอำเภอปรางค์กู่ นายปรีชา วงษ์วานิช วัฒนธรรมอำเภอปรางค์กู่ รับมอบหมายจากนายกฤตกร ถาศักดิ์ นายอำเภอปรางค์กู่ ให้เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ปัญญา มงคลการ ผกก.สภ.ปรางค์กู่ ทนงศักดิ์ นรดี กำนันตำบลกู่  และนายบุญมา นวลสาย ผู้อำนวยการ คณะผู้บริหาร ครูอาจารย์ นักเรียนนักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาจุลมณีอุทุมพรพิสัยพร้อมด้วยพสกนิกรชาวกูยบ้านกู่ทุกหมู่เหล่า จำนวน300 คน สดุดีและแสดงความอาลัยในพิธีจุดเทียนถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 


โดยมีประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงและเนืองแน่นเต็มพื้นที่ เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
       

       พระมหาติ่ง มหิสฺสโร พระอาจารย์สอนที่วิทยาลัยฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ก่อนพิธีจุดเทียนถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงเย็นนั้น ในช่วงเช้าได้มีการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า 



อุปกรณ์เครื่องยนต์ให้ชาวบ้าน ฟรี และนำนักเรียน ปวช.ปวส.ช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว ช่วยตากข้าวเปลือกและเก็บข้าวเปลือกช่วยชาวนา  


เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559
       

       ขณะที่ช่วงเย็น นายกฤตกร ถาศักดิ์ นายอำเภอปรางค์กู่ ได้มอบหมายให้ นายชาตรีแสนทวีสุข และพ.ต.อ.ปัญญา มงคลการ ผกก.สภ.ปรางค์กู่ 



เป็นประธานนำกล่าวสดุดีและแสดงความอาลัย พร้อมตั้งสัตย์ปฏิญาณและถวายคำมั่นสัญญาว่าจะน้อมนำเอาแนวทางพระราชดำริต่างๆ ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้มาเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ ดำเนินรอยตามพระยุคลบาทและสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์สืบไปตราบจนชีวิตจะหาไม่ ก่อนที่จะจุดเทียนแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เมื่อภาวะราคาข้าวเปลือกตกต่ำ "ข้าวสารปรางค์กู่"ตราชาวกูย

ชาวนาต้องเจอกับภาวะราคาข้าวเปลือกตกต่ำ จึงได้รวมกลุ่มนำข้าวเปลือกมาแปรรูปเป็นข้าวสารเพื่อจำหน่าย ข้าวสารปรางค์กู่ ตราชาวกูย ซึ่งผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โรงสีชุมชนบ้านกู่ ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ขอบพระคุณทุกท่านที่สนใจสนับสนุนชาวนาโดยตรง ราคากิโลกรัมละ25 บาท
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ 

ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวกูย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ที่นำข้าวสารปรางค์กู่ ตราชาวกูย ซึ่งผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โรงสีชุมชนบ้านกู่ ต.กู่ มาวางจำหน่ายบริเวณจุดรวมพลังซื้อข้าวจากชาวนา ที่มีการเปิดพื้นที่โดยไม่เสียค่าบริการ เพื่อช่วยเหลือชาวนาในช่วงที่ข้าวเปลือกมีราคาตกต่ำ ซึ่งข้าวสารหอมมะลิใหม่ขายกิโลกรัมละ 25 บาท ข้าวกรองหอมมะลิกิโลกรัมละ 35 บาท และข้าวไรซ์เบอร์รี่กิโลกรัมละ 50 บาท
นายธนากร พรมลิ ชาวกูยเกษตรกร ต.กู่ กล่าวว่า ชาวนาต้องเจอกับภาวะราคาข้าวเปลือกตกต่ำ จึงได้รวมกลุ่มนำข้าวเปลือกมาแปรรูปเป็นข้าวสารเพื่อจำหน่าย ต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะรัฐบาล จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอปรางค์กู่ ที่เปิดจุดให้ชาวนาได้นำข้าวสารมาวางจำหน่าย ทำให้เกษตรกรเกิดรายได้ที่สามารถพยุงตัวได้ในภาวะราคาข้าวเปลือกในปัจจุบัน ซึ่งมีวางจำหน่ายตามจุดที่ทางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอปรางค์กู่ ได้กำหนดจุดอำนวยความสะดวก เช่น ที่ว่าการอำเภอปรางค์กู่ ธกส.สาขาปรางค์กู่ โรงพยาบาลปรางค์กู่ และจุดจำหน่ายที่โรงสีชุมชนบ้านกู่



นายธนากร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่แปรรูปข้าวสารจำหน่าย ทำให้กลุ่มได้จำหน่ายข้าวสารไปแล้วจำนวนกว่า 3 ตัน คิดเป็นเงินมูลค่าเกือบหนึ่งแสนบาท ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ นายทะนงศักดิ์ นรดี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โรงสีชุมชนบ้านกู่ โทร 089-0578852 ,นายธนากร พรมลิ 085-2012914 และนายยอด แก้วละมุล 096-8823202