ขึ้น 14 ค่ำและ 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี
"บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ต้องได้กินดี อยู่ดี"
จะประกอบพิธีทั้งที่บ้านและที่วัด
ผู้คนที่นี่เป็นคนไทยชาติพันธุ์กูยหรือกวย มีภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความเชื่อความศรัทธาในการรักษาประเพณีอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะวันสารทกูยหรือสารทกวย ซึ่งจะทำในวันขึ้น 14 ค่ำและ 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี
การเตรียมงานเทศกาลวันสารทสำคัญมาก สิ่งของต้องเตรียมมีมากโดยต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า เพราะมีทั้งของกิน ของใช้ ของสด ของแห้ง โดยเฉพาะอาหารการกินนั้นจะมากเป็นพิเศษ เพราะต้องใช้ทั้งการเซ่นไหว้ และนำไปในวันสารท ซึ่งอาหารนั้นมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และล้วนแต่เป็นอาหารที่บรรพบุรุษ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ผู้ล่วงลับไปแล้วชอบกิน จำพวกขนม เช่น อาซอม ฮนอมโปม ผลหมากรากไม้, และอาหารต่าง ๆ เช่น กบ, ปลา,ไก่ย่าง , เนื้อวัว, เนื้อหมู ซึ่งต้องปิ้ง ย่าง นึ่ง หรือแกง เหล้ายาปลาปิ้งเพราะเป็นการประกอบอาหารของคนสมัยก่อนที่น้ำมันเป็นของหายาก
"ปีหนึ่งมีเพียงครั้งเดียวที่จะได้ทำบุญใหญ่ให้พ่อแม่ อาหารที่พ่อแม่เคยชอบกิน ยากลำบากแค่ไหนก็จะหา ทำแล้วมีความสุข"
ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 10 วันรวมญาติวันแห่งการเซ่นไหว้
"วันเซ่นไหว้" เป็นวันที่ลูกหลานจากที่ต่าง ๆ ทุกเพศ ทุกวัย กลับมารวมตัวกัน เพื่อนำอาหารมากมายที่เตรียมไว้ ไปเซ่นไหว้อัฐิของบรรพบุรุษ พ่อแม่ ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้วที่เจดีย์ บริเวณรอบ ๆ กำแพงวัดซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน การเซ่นไหว้จะทำทั้งวัน ซึ่งจะมีการนิมนต์พระมาสวดมาติกาบังสุกุล
นอกจากการเซ่นที่วัดแล้ว ในเวลาเย็นถึงค่ำ จะรวมลูกหลานอีกครั้งที่บ้านหลังที่พ่อแม่หรือบรรพบุรุษเคยอยู่ก่อนเสียชีวิต เป็นการเซ่นไหว้แบบครอบครัว เมื่อเสร็จพิธีจะรับประทานอาหารที่นำมาเซ่นด้วยกัน ถือเป็นช่วงเวลาที่ญาติพี่น้องได้พบปะพูดคุย ได้แสดงให้ผู้ล่วงลับได้เห็นว่าลูกหลานมีความเป็นหนึ่งเดียว
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 วันสารทกูย
วันสำคัญที่ทุกครอบครัวจะเตรียม ใส่ข้าวของเครื่องใช้ ของกิน อาหารคาวหวานอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นของสำหรับคนตาย ใส่ให้เต็ม ทั้งของสดของแห้ง ของกิน ของใช้ ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า ขัน เงิน ไฟแช็ค สบู่ ยาสระผม ความพิเศษคือห่อด้วยใบตองและมัดด้วยด้ายสีขาว และที่ขาดไม่ได้คือ พืชประเภทหัวและแตกหน่อ ไม่ว่าจะเป็น กระชาย ข่า ว่านไฟ ตะไคร้ หน่อไม้ โดยจะเขียนชื่อผู้ตายไว้ในกระดาษเสียบไป เสร็จแล้วพระสงฆ์จะทำมาติกาสวดบังสุกุล ลูกหลานนั้นจะกรวดน้ำ เรียกพ่อแม่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วให้มารับของที่นำมาให้ จะมีการเรียกชื่อตามสลากที่ได้เขียนไป มีข้าวปลาอาหารอุทิศให้พ่อ...แม่...ปู่ ย่าตายาย" เวลาเดียวกันผู้ที่อุทิศก็จะจุดธูปเทียนบอกกล่าว เพื่อให้ผีบรรพบุรุษที่รออยู่บริเวณนั้นได้เห็นและเข้ามารับเอาของไป พร้อมเรียกให้พ่อแม่มารับ สลากจะถูกอ่านจนครบทุกคน ทำพิธีกรวดน้ำ แล้ว ช่างเช้าวันขึ้น 15 ค่ำเดือน10 จะนำภัตตาหารหวานคาว พร้อมสิ่งของบริวารไปทำบุญที่วัด เป็นประเพณีของชาวกูยที่สืบทอดกันมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น